Internet of Things (IoT) - เทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโลกทั้งใบให้อยู่ในมือ
สวัสดีครับ พบกับบทความเทคโนโลยีที่น่าสนใจกันทุกอาทิตย์ วันนี้ทางเราขอนำเสนอ "Internet of Things (IoT) เทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโลกทั้งใบให้อยู่ในมือ เทคโนโลยีนี้สะดวกต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร?" มารับชมกันได้เลยครับ
internet of things (Iot) คืออะไร?
การเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ควบคุมช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ทั่วไป และเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย
การเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ควบคุมช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ทั่วไป และเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย
ตัวอย่างเทคโนโลยี internet of things (Iot) ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
1. Smart Home
เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้กับอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น หลอดไฟที่เปิดปิดเองได้ผ่านโทรศัพท์ รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัย
2. Smart Wearable
อุปกรณ์สวมใส่ที่มีฟังก์ชันที่มากกว่านาฬิกาปกติ เป็นอุปกรณ์สวมใส่ตรวจวัดสุขภาพ เช่น ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจหรือเครื่องวัดความดันโลหิต
3. Smart Grid
การส่งไฟฟ้าอัจฉริยะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งไฟฟ้า ทำให้การซื้อขายไฟฟ้าเป็นไปอย่างเสรี ไฟฟ้ามีราคาถูกและสามารถตรวจสอบจุดที่มีปัญหาได้
4. Smart City
การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับสิ่งต่าง ๆภายในเมืองเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น การควบคุมการจราจร การจัดการการประปาและการเก็บขยะอัตโนมัติ
5. Connected Car
เทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการจราจรบนท้องถนนด้วย รวมไปถึงบริการตรวจเช็ครถยนต์จากระยะไกล หวังว่าผู้ชมจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย สัปดาห์หน้าจะเป็นบทความอะไร ติดตามกันต่ออาทิตย์หน้านะครับ สวัสดีครับ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ www.ereky.com
1. Smart Home
เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้กับอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น หลอดไฟที่เปิดปิดเองได้ผ่านโทรศัพท์ รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัย
2. Smart Wearable
อุปกรณ์สวมใส่ที่มีฟังก์ชันที่มากกว่านาฬิกาปกติ เป็นอุปกรณ์สวมใส่ตรวจวัดสุขภาพ เช่น ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจหรือเครื่องวัดความดันโลหิต
3. Smart Grid
การส่งไฟฟ้าอัจฉริยะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งไฟฟ้า ทำให้การซื้อขายไฟฟ้าเป็นไปอย่างเสรี ไฟฟ้ามีราคาถูกและสามารถตรวจสอบจุดที่มีปัญหาได้
4. Smart City
การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับสิ่งต่าง ๆภายในเมืองเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น การควบคุมการจราจร การจัดการการประปาและการเก็บขยะอัตโนมัติ
5. Connected Car
เทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการจราจรบนท้องถนนด้วย รวมไปถึงบริการตรวจเช็ครถยนต์จากระยะไกล หวังว่าผู้ชมจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย สัปดาห์หน้าจะเป็นบทความอะไร ติดตามกันต่ออาทิตย์หน้านะครับ สวัสดีครับ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ www.ereky.com
Comments
Post a Comment