6 เคล็ดลับการฝึกโยคะสำหรับคนอ้วน
ผู้หญิงร่างผอมเพรียวโดยเฉพาะถ้ามีผิวขาวด้วยแล้วล่ะก็อาจจะเป็นภาพ ลักษณ์ของครูโยคะที่นักการตลาดต้องการ แต่ในชีวิตจริงครูสอนโยคะไม่มีอะไรเลยนอกจากเสน่ห์ บางครั้งนักเรียนก็ไม่รู้ว่าเป็นฉันเป็นครูโยคะ บ่อยครั้งที่พวกเขามองฉันอย่างประหลาดใจหลังจากที่รู้ว่าฉันเป็นครู มีหลายครั้งที่ฉันเผลอพูดออกไปว่า "ฉันได้รับพันธุ กรรมโรคอ้วนและรักษาด้วยยาเลยน้ำหนักขึ้นแบบนี้! ฉันออกกำลังกายเพื่อบำรุงหัวใจ! ฉันเป็นมังสวิรัติที่ต้องแอบไปร้องไห้ในโอ่ง!"
จุดประสงค์ของ การฝึกโยคะไม่ได้มีไว้เพื่อรักษาหุ่นเพียงอย่างเดียว ใครก็ตามที่เปิดใจก็จะได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับใช้ให้เข้ากับบางส่วนหรือทุกส่วนของร่างกายได้ และนี่คือเคล็ดลับการฝึกโยคะสำหรับคนอ้วน
1. ใจเย็นๆ
เรามักคิดว่าการออกกำลัง กายต้องเร็วและหนักถึงจะคุ้ม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการชะลอให้ช้าลง รูปแบบโยคะที่ช้าจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงไปพร้อมกับการปรับ สมดุลของระบบประสาท ยิ่งไปกว่านั้นมันยังช่วยผ่อนคลายความเครียดที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบและ น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ด้วย ลองมองหาชั้นเรียนโยคะแบบเริ่มต้นใกล้บ้านคุณดูสิ รับรองจะติดใจ!
2. รู้จักขีดจำกัดของตัวเอง
ปัจจัย สำคัญที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดอาการบาดเจ็บ คุณควรฟังร่างกายของตัวเองเมื่อมีการขยับท่วงท่า ไม่ใช่ว่าทุกท่วงท่าจะเข้ากับร่างกายของเราได้หมด ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน ให้ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้เอง
3. น้ำหนักเป็นแค่ตัวเลข
อย่า ลืมว่าคุณอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยคนที่ตัวเล็กกว่าคุณจึงต้องฝึกหนักกว่าพวก เขายกตัวอย่างเช่น เพื่อรักษาความสมดุลของแขนฉันต้องยกน้ำหนักอย่างน้อย 50 ปอนด์ซึ่งมากกว่าคนอื่นๆในห้อง อย่างไรก็ตามไม่ควรกดดันตัวเองแต่ควรเคารพความต้องการและข้อจำกัดของร่างกาย นั่นต่างหากคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการฝึกโยคะ
4. ใช้อุปกรณ์
คุณ สามารถใช้สายรัดเพื่อยืดแขน ขณะเดียวกันถ้ามือคุณแตะไม่ถึงพื้นก็ให้ใช้บล็อกหรือไม่ก็ให้จับเสื้อหรือ กางเกงเพื่อบิดและยืดแขน หากการลุกขึ้นจากพื้นเป็นเรื่องยุ่งยากก็ลองหาอุปกรณ์ช่วยและฝึกโยคะในท่า นั่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง กำหนดจุดประสงค์ในการฝึกว่าต้องการสร้างความแข็งแกร่งหรือยืดกล้ามเนื้อ และปฏิบัติให้สำเร็จ
5. หาครูที่เหมาะสม
อย่า เสียเวลาในชั้นเรียนที่ไม่ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเอง ย้ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะพบครูที่ถูกใจ เนื่องจากโยคะควรทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา พร้อมที่จะเผชิญโลกด้วยความกระจ่างแจ้ง หรืออย่างน้อยก็ด้วยความอดทนอดกลั้น
6. อย่าลืมจุดประสงค์
โยคะ คือการฝึกจิตที่สำคัญที่สุด การฝึกท่าทางต่างๆก็คือการฝึกตัวเองให้อยู่กับปัจจุบัน การสังเกตและการยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ทำให้เราสามารถควบคุมความคิดได้ ส่วนที่ยากที่สุดคือการปล่อยวางกระแสความคิดในแง่ลบที่สร้างความเสียหาย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะพรากความมั่นใจและความรู้สึกสบายใจของเราไป แม้ว่าการฝึกโยคะจะยากแต่มันก็คุ้มค่า จิตใจของเราคงไม่สามารถสงบลงได้ถ้าเรายังทำสงครามกับร่างกายของตัวเอง ดังนั้นจงเลือกความสงบสุขเถิด!
ที่มา : variety.teenee.com
จุดประสงค์ของ การฝึกโยคะไม่ได้มีไว้เพื่อรักษาหุ่นเพียงอย่างเดียว ใครก็ตามที่เปิดใจก็จะได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับใช้ให้เข้ากับบางส่วนหรือทุกส่วนของร่างกายได้ และนี่คือเคล็ดลับการฝึกโยคะสำหรับคนอ้วน
1. ใจเย็นๆ
เรามักคิดว่าการออกกำลัง กายต้องเร็วและหนักถึงจะคุ้ม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการชะลอให้ช้าลง รูปแบบโยคะที่ช้าจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงไปพร้อมกับการปรับ สมดุลของระบบประสาท ยิ่งไปกว่านั้นมันยังช่วยผ่อนคลายความเครียดที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบและ น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ด้วย ลองมองหาชั้นเรียนโยคะแบบเริ่มต้นใกล้บ้านคุณดูสิ รับรองจะติดใจ!
2. รู้จักขีดจำกัดของตัวเอง
ปัจจัย สำคัญที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดอาการบาดเจ็บ คุณควรฟังร่างกายของตัวเองเมื่อมีการขยับท่วงท่า ไม่ใช่ว่าทุกท่วงท่าจะเข้ากับร่างกายของเราได้หมด ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน ให้ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้เอง
3. น้ำหนักเป็นแค่ตัวเลข
อย่า ลืมว่าคุณอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยคนที่ตัวเล็กกว่าคุณจึงต้องฝึกหนักกว่าพวก เขายกตัวอย่างเช่น เพื่อรักษาความสมดุลของแขนฉันต้องยกน้ำหนักอย่างน้อย 50 ปอนด์ซึ่งมากกว่าคนอื่นๆในห้อง อย่างไรก็ตามไม่ควรกดดันตัวเองแต่ควรเคารพความต้องการและข้อจำกัดของร่างกาย นั่นต่างหากคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการฝึกโยคะ
4. ใช้อุปกรณ์
คุณ สามารถใช้สายรัดเพื่อยืดแขน ขณะเดียวกันถ้ามือคุณแตะไม่ถึงพื้นก็ให้ใช้บล็อกหรือไม่ก็ให้จับเสื้อหรือ กางเกงเพื่อบิดและยืดแขน หากการลุกขึ้นจากพื้นเป็นเรื่องยุ่งยากก็ลองหาอุปกรณ์ช่วยและฝึกโยคะในท่า นั่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง กำหนดจุดประสงค์ในการฝึกว่าต้องการสร้างความแข็งแกร่งหรือยืดกล้ามเนื้อ และปฏิบัติให้สำเร็จ
5. หาครูที่เหมาะสม
อย่า เสียเวลาในชั้นเรียนที่ไม่ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเอง ย้ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะพบครูที่ถูกใจ เนื่องจากโยคะควรทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา พร้อมที่จะเผชิญโลกด้วยความกระจ่างแจ้ง หรืออย่างน้อยก็ด้วยความอดทนอดกลั้น
6. อย่าลืมจุดประสงค์
โยคะ คือการฝึกจิตที่สำคัญที่สุด การฝึกท่าทางต่างๆก็คือการฝึกตัวเองให้อยู่กับปัจจุบัน การสังเกตและการยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ทำให้เราสามารถควบคุมความคิดได้ ส่วนที่ยากที่สุดคือการปล่อยวางกระแสความคิดในแง่ลบที่สร้างความเสียหาย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะพรากความมั่นใจและความรู้สึกสบายใจของเราไป แม้ว่าการฝึกโยคะจะยากแต่มันก็คุ้มค่า จิตใจของเราคงไม่สามารถสงบลงได้ถ้าเรายังทำสงครามกับร่างกายของตัวเอง ดังนั้นจงเลือกความสงบสุขเถิด!
ที่มา : variety.teenee.com
Comments
Post a Comment