โรคกลัวผู้ชาย คืออะไร อาการแบบไหนถึงเรียกว่าป่วย
ปัญหาสุขภาพจิตกับโรคกลัวอะไรแปลก ๆ คราวนี้เราจะมารู้จักโรคกลัวผู้ชายกัน เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องอ่าน
โรค กลัวผู้ชาย (Androphobia) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกซึ่งผสมกันระหว่างคำว่า Andras ที่แปลว่าผู้ชาย กับคำว่า Phobos ที่แปลว่าความกลัว โดยหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีโรคกลัวผู้ชายอยู่ร่วมกันกับเราในจักรวาลนี้ ด้วย แต่อยากบอกให้รู้ไว้เลยค่ะว่า โรคกลัวผู้ชายได้สร้างความทรมานและความลำบากในการใช้ชีวิตให้ใครต่อใครมาไม่ น้อย และส่วนมากผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชายเองก็อาจไม่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้อีกด้วย ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักโรคกลัวผู้ชาย (Androphobia) กันให้มากขึ้น อย่างน้อยก็ได้สำรวจความผิดปกติของตัวเองไปในตัว
โรคกลัวผู้ชาย (Androphobia) คือโรคอะไรกันแน่
โรคกลัวผู้ชาย จัดว่าเป็นโรคกลัวอะไรที่เฉพาะเจาะจง (Specific Phobia) เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนมากจะพบในวัยรุ่นผู้หญิงมากที่สุด โดยผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการตั้งแต่วัยเด็ก ลากยาวไปจนถึงตอนโต ซึ่งโดยส่วนมากผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชายจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทว่าผู้ป่วยจะหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับเพศชาย บางรายจะหวาดกลัวจนไม่กล้าคบค้ากับผู้ชายเลยสักคน ยกเว้นเพียงญาติหรือเพื่อนสนิทมาก ๆ เท่านั้น
ทว่า ในบางกรณีอาจมีเพื่อนผู้ชายอยู่บ้าง แต่ผู้ป่วยจะพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเพื่อนชายกับตัวเองให้มากที่สุด พูดง่าย ๆ ว่ายอมเป็นแค่คนรู้จักผ่าน ๆ กับเพศชาย แต่ไม่ยอมสนิทสนมหรือสานความสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น และหากมีผู้ชายมาเข้าใกล้ ผู้ป่วยจะแสดงออกถึงความหวาดกลัว และรู้สึกไม่ดีอย่างมากจนอาจร้องไห้ฟูมฟายหรือเสียสติไปชั่วขณะ
โรคกลัวผู้ชาย สาเหตุเกิดจากอะไร
โรค กลัวผู้ชายก็คล้ายกับโรคกลัวชนิดอื่น ๆ ที่มีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย แต่โดยส่วนใหญ่อาจเกิดจากประสบการณ์เลวร้ายที่จำฝังใจมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มีกรณีที่ถูกกระทำชำเราหรือถูกทำร้ายโดยผู้ชายในวัยเด็ก โดยความรู้สึกกลัวขั้นสูงสุดจะถูกบันทึกเหตุการณ์และสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ณ ขณะนั้นไว้ที่ต่อมใต้สมองส่วนกลาง (Hypothalamus) แล้วจะฉายเหตุการณ์นั้นซ้ำ ๆ อยู่ในหัว จนแสดงออกเป็นความกลัวที่ติดตัวมาโดยตลอด
ทั้งนี้โรคกลัวผู้ชายยังมีสาเหตุได้จากการปลูกฝังคำสอนในเรื่องห้ามเข้าใกล้ ผู้ชาย (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) หรือการได้รู้เห็นเหตุการณ์น่ากลัว ๆ มาจากสื่อ ละคร หนัง ข่าว หรือการบอกเล่าของผู้อื่นจนก่อให้เกิดความรู้สึกกลัวผู้ชายได้อีกด้วย
โรคกลัวผู้ชาย อาการเป็นอย่างไร
อาการ ของผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชาย สามารถแบ่งออกได้ 2 ส่วน คือ อาการที่แสดงออกทางร่างกาย และอาการที่แสดงออกทางจิตใจ ซึ่งหากเข้าใกล้หรือเจอกับผู้ชาย จะมีอาการดังนี้
1. อาการที่แสดงออกทางร่างกาย
หายใจถี่เร็ว
ชีพจรเต้นเร็วและแรงขึ้น
ตัวสั่นเทา
เหงื่อแตก
วิงเวียน หน้ามืด บางรายอาจเป็นลม
หายใจไม่สะดวก
แน่นหน้าอก
คลื่นไส้ อาเจียน
2. อาการที่แสดงออกทางจิตใจ
รู้สึกกลัวจับใจ รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าใกล้ความตาย
รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกคุกคาม
ตื่นตระหนก
วิตกกังวลอย่างมาก
รู้สึกสูญเสียการควบคุมตัวเอง
รู้สึกอับอายและอยากหนีไปจากสถานการณ์ตรงหน้า
อาการ ป่วยของโรคกลัวผู้ชายนับเป็นอุปสรรคชิ้นโตของชีวิต ก่อให้เกิดความรู้สึกตึงเครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และนำไปสู่ความรู้สึกไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง รวมทั้งรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมักจะเก็บงำอาการป่วยของตัวเองไว้ และจะยอมแสดงอาการออกมาก็ต่อเมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกทนไม่ ไหวจริง ๆ
วิธีรักษาโรคกลัวผู้ชาย
โรคกลัวผู้ชายสามารถรักษาให้หายได้ โดยวิธีรักษาโรคกลัวผู้ชายสามารถทำได้ดังนี้
1. บำบัดโดยใช้เทคนิคการเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว (Graded Exposure Therapy)
วิธี นี้เป็นพฤติกรรมบำบัดที่จิตแพทย์นิยมใช้ โดยหลักในการรักษาจะให้ผู้ป่วยเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองกลัวอย่างค่อยเป็นค่อย ไป เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกลัวจนเกิดเป็นความเคยชิน โดยจะเริ่มฝึกเรียงลำดับจากความกลัวน้อยไปหาความกลัวที่มากขึ้น เช่น เริ่มจากดูรูปถ่ายผู้ชาย หรือจินตนาการว่าตัวเองกำลังคุยกับผู้ชายสักคน เป็นต้น
ซึ่งในแต่ละครั้งผู้ป่วยต้องอดทนกับความกลัวนั้นให้ถึงที่สุด ฝึกเผชิญหน้าอย่างนี้ไปบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนอาการกลัวลดลงเป็นลำดับ
2. สะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy)
การรักษาด้วยวิธีสะกดจิตบำบัดอาจทำแบบเป็นกลุ่มหรือแบบเดี่ยวก็ได้ โดยนักสะกดจิตจะโน้มน้าวให้ผู้ป่วยทบทวนความกลัวในจิตใต้สำนึกของตัวเอง และแนะแนวให้กำจัดความกลัวนั้นอย่างถูกต้อง ซึ่งนับว่าการรักษาแบบสะกดจิตบำบัดจะช่วยให้ผู้ป่วยกำจัดความกลัวของตัวเอง ได้ชนิดที่เรียกว่าถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว
3. บำบัดด้วยการปรับทัศนคติ
ใน รายที่ความกลัวมีไม่มาก จิตแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเขียนบันทึกความกลัวของตัวเองเป็นข้อ ๆ และค่อยปรับทัศนคติของผู้ป่วยในแง่บวกมากขึ้น เช่น เมื่อผู้ป่วยเขียนว่า "ไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชาย เพราะผู้ชายอาจทำร้ายฉันได้" จิตแพทย์จะให้เรียงประโยคใหม่เป็น "ความกลัวของฉันเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ ผู้ชายอาจน่าคบหาก็ได้" เป็นต้น
4. รักษาด้วยยา
การรักษาโรคกลัวผู้ชายด้วยยาจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จิตแพทย์จะใช้ เนื่องจากยาจะให้ผลการรักษาในระยะสั้น และมักจะมีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยพอสมควร ดังนั้นการรักษาโรคกลัวผู้ชายด้วยยาจึงไม่เป็นที่แนะนำเท่าไร
อย่าง ไรก็ตาม โรคกลัวผู้ชายยังสามารถรักษาให้หายได้ และมีหลายวิธีให้เลือกบำบัด ฉะนั้นหากลึก ๆ แล้วคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นโรคนี้อยู่ ลองปรึกษาจิตแพทย์และทำการรักษาเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
FEAROF.NET
Phobia Fears
http://health.kapook.com/view129782.html
โรค กลัวผู้ชาย (Androphobia) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกซึ่งผสมกันระหว่างคำว่า Andras ที่แปลว่าผู้ชาย กับคำว่า Phobos ที่แปลว่าความกลัว โดยหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีโรคกลัวผู้ชายอยู่ร่วมกันกับเราในจักรวาลนี้ ด้วย แต่อยากบอกให้รู้ไว้เลยค่ะว่า โรคกลัวผู้ชายได้สร้างความทรมานและความลำบากในการใช้ชีวิตให้ใครต่อใครมาไม่ น้อย และส่วนมากผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชายเองก็อาจไม่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้อีกด้วย ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักโรคกลัวผู้ชาย (Androphobia) กันให้มากขึ้น อย่างน้อยก็ได้สำรวจความผิดปกติของตัวเองไปในตัว
โรคกลัวผู้ชาย (Androphobia) คือโรคอะไรกันแน่
โรคกลัวผู้ชาย จัดว่าเป็นโรคกลัวอะไรที่เฉพาะเจาะจง (Specific Phobia) เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนมากจะพบในวัยรุ่นผู้หญิงมากที่สุด โดยผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการตั้งแต่วัยเด็ก ลากยาวไปจนถึงตอนโต ซึ่งโดยส่วนมากผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชายจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทว่าผู้ป่วยจะหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับเพศชาย บางรายจะหวาดกลัวจนไม่กล้าคบค้ากับผู้ชายเลยสักคน ยกเว้นเพียงญาติหรือเพื่อนสนิทมาก ๆ เท่านั้น
ทว่า ในบางกรณีอาจมีเพื่อนผู้ชายอยู่บ้าง แต่ผู้ป่วยจะพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเพื่อนชายกับตัวเองให้มากที่สุด พูดง่าย ๆ ว่ายอมเป็นแค่คนรู้จักผ่าน ๆ กับเพศชาย แต่ไม่ยอมสนิทสนมหรือสานความสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น และหากมีผู้ชายมาเข้าใกล้ ผู้ป่วยจะแสดงออกถึงความหวาดกลัว และรู้สึกไม่ดีอย่างมากจนอาจร้องไห้ฟูมฟายหรือเสียสติไปชั่วขณะ
โรคกลัวผู้ชาย สาเหตุเกิดจากอะไร
โรค กลัวผู้ชายก็คล้ายกับโรคกลัวชนิดอื่น ๆ ที่มีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย แต่โดยส่วนใหญ่อาจเกิดจากประสบการณ์เลวร้ายที่จำฝังใจมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มีกรณีที่ถูกกระทำชำเราหรือถูกทำร้ายโดยผู้ชายในวัยเด็ก โดยความรู้สึกกลัวขั้นสูงสุดจะถูกบันทึกเหตุการณ์และสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ณ ขณะนั้นไว้ที่ต่อมใต้สมองส่วนกลาง (Hypothalamus) แล้วจะฉายเหตุการณ์นั้นซ้ำ ๆ อยู่ในหัว จนแสดงออกเป็นความกลัวที่ติดตัวมาโดยตลอด
ทั้งนี้โรคกลัวผู้ชายยังมีสาเหตุได้จากการปลูกฝังคำสอนในเรื่องห้ามเข้าใกล้ ผู้ชาย (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) หรือการได้รู้เห็นเหตุการณ์น่ากลัว ๆ มาจากสื่อ ละคร หนัง ข่าว หรือการบอกเล่าของผู้อื่นจนก่อให้เกิดความรู้สึกกลัวผู้ชายได้อีกด้วย
โรคกลัวผู้ชาย อาการเป็นอย่างไร
อาการ ของผู้ป่วยโรคกลัวผู้ชาย สามารถแบ่งออกได้ 2 ส่วน คือ อาการที่แสดงออกทางร่างกาย และอาการที่แสดงออกทางจิตใจ ซึ่งหากเข้าใกล้หรือเจอกับผู้ชาย จะมีอาการดังนี้
1. อาการที่แสดงออกทางร่างกาย








2. อาการที่แสดงออกทางจิตใจ






อาการ ป่วยของโรคกลัวผู้ชายนับเป็นอุปสรรคชิ้นโตของชีวิต ก่อให้เกิดความรู้สึกตึงเครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และนำไปสู่ความรู้สึกไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง รวมทั้งรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมักจะเก็บงำอาการป่วยของตัวเองไว้ และจะยอมแสดงอาการออกมาก็ต่อเมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกทนไม่ ไหวจริง ๆ
วิธีรักษาโรคกลัวผู้ชาย
โรคกลัวผู้ชายสามารถรักษาให้หายได้ โดยวิธีรักษาโรคกลัวผู้ชายสามารถทำได้ดังนี้
1. บำบัดโดยใช้เทคนิคการเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว (Graded Exposure Therapy)
วิธี นี้เป็นพฤติกรรมบำบัดที่จิตแพทย์นิยมใช้ โดยหลักในการรักษาจะให้ผู้ป่วยเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองกลัวอย่างค่อยเป็นค่อย ไป เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกลัวจนเกิดเป็นความเคยชิน โดยจะเริ่มฝึกเรียงลำดับจากความกลัวน้อยไปหาความกลัวที่มากขึ้น เช่น เริ่มจากดูรูปถ่ายผู้ชาย หรือจินตนาการว่าตัวเองกำลังคุยกับผู้ชายสักคน เป็นต้น
ซึ่งในแต่ละครั้งผู้ป่วยต้องอดทนกับความกลัวนั้นให้ถึงที่สุด ฝึกเผชิญหน้าอย่างนี้ไปบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนอาการกลัวลดลงเป็นลำดับ
2. สะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy)
การรักษาด้วยวิธีสะกดจิตบำบัดอาจทำแบบเป็นกลุ่มหรือแบบเดี่ยวก็ได้ โดยนักสะกดจิตจะโน้มน้าวให้ผู้ป่วยทบทวนความกลัวในจิตใต้สำนึกของตัวเอง และแนะแนวให้กำจัดความกลัวนั้นอย่างถูกต้อง ซึ่งนับว่าการรักษาแบบสะกดจิตบำบัดจะช่วยให้ผู้ป่วยกำจัดความกลัวของตัวเอง ได้ชนิดที่เรียกว่าถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว
3. บำบัดด้วยการปรับทัศนคติ
ใน รายที่ความกลัวมีไม่มาก จิตแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเขียนบันทึกความกลัวของตัวเองเป็นข้อ ๆ และค่อยปรับทัศนคติของผู้ป่วยในแง่บวกมากขึ้น เช่น เมื่อผู้ป่วยเขียนว่า "ไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชาย เพราะผู้ชายอาจทำร้ายฉันได้" จิตแพทย์จะให้เรียงประโยคใหม่เป็น "ความกลัวของฉันเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ ผู้ชายอาจน่าคบหาก็ได้" เป็นต้น
4. รักษาด้วยยา
การรักษาโรคกลัวผู้ชายด้วยยาจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จิตแพทย์จะใช้ เนื่องจากยาจะให้ผลการรักษาในระยะสั้น และมักจะมีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยพอสมควร ดังนั้นการรักษาโรคกลัวผู้ชายด้วยยาจึงไม่เป็นที่แนะนำเท่าไร
อย่าง ไรก็ตาม โรคกลัวผู้ชายยังสามารถรักษาให้หายได้ และมีหลายวิธีให้เลือกบำบัด ฉะนั้นหากลึก ๆ แล้วคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นโรคนี้อยู่ ลองปรึกษาจิตแพทย์และทำการรักษาเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
FEAROF.NET
Phobia Fears
http://health.kapook.com/view129782.html
Comments
Post a Comment